• ข่าวสาร
      expand_more
      • Patch Note
      • ทัวร์นาเมนท์
      • โปรโมชั่น
      • กิจกรรม
      • ข่าวอัพเดต
    • ทัวร์นาเมนท์
      expand_more
      • GRAND TOURNAMENT
    • คู่มือเกม
      expand_more
      • เทคนิคการเล่น
      • ระบบภายในเกม
      • การเริ่มเล่นเกม
      • คลาส
    • มีเดีย
      expand_more
      • WALLPAPER
      • CLIP & LIVE STREAM
      • COMIC
    • เติมเงิน
      expand_more
      • เติมไอเทมโค้ด
      • เติมผ่าน SCB
      • แลก DIAMOND
      • ซื้อ SHELL
    • ดาวน์โหลด
      expand_more
      • MANUAL PATCH
  • การแข่งขันESPORT
  • ทำการซื้อGARENA SHELL
  • เปลี่ยน SHELLเป็น DIAMOND
  • ทำการเติมITEM CODE
  • ไกด์ & เทคนิคการเล่นGUIDE
  • BLADE & SOULCOMIC
  • COMMUNITYBLADE & SOUL
  • ระบบช่วยเหลือHELP

  • expand_less
    Top
yangsang โซยังซัง เรื่องราวของคนสามคน
yangsang โซยังซัง เรื่องราวของคนสามคน
  • EP.1
    ความเข้าใจผิด
comic share
ความเข้าใจผิด
remove_red_eye5923/08/2018

เรื่องราวของคนสามคน : ความเข้าใจผิด

ภาพ : ปาร์คฮยองอุค

เรื่อง : ลีชาซอน

 

ที่ป่าลูมัง ลมที่พัดปลิวทำให้เสื้อของทังยอวอลที่แขวนอยู่ที่หน้าต่างพลิ้วไหว ในตอนนี้ทังยอวอลสวมเพียงกางเกงตัวในเท่านั้น และตอนนี้นางอยู่กับจ่าฝูงแห่งลูมัง โซยังซัง แต่ในความเป็นจริง โซยังซังไม่สามารถมองทังยอวอลได้ ทังยอวอลอึดอัดกับท่าทีของโซยังซังที่เอาแต่มองไปทางอื่น จึงเอาตัวเข้าไปแนบชิดกับเขาอย่างรวดเร็ว โซยังซังผลักยอวอลออกด้วยสองมือ แล้วแสร้งถามอย่างสุขุม

"ยะ ยอวอล ทำอะไรน่ะ?"

"หนุ่มสาวสองคนที่ชอบพอกันอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้... มันก็ชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?"

"ชะ ชัดอะไรกัน! เจ้าพูดเรื่องอะไรน่ะ?"

"คนๆ นี้นี่ ทำไมถึงมาทำเป็นไร้เดียงสาแบบนี้นะ~?"

 

ยอวอลลูบใบหน้าของโซยังซังอย่างแผ่วเบา ทันใดนั้นโซยังซังก็ผละออกแล้วถอยหลังด้วยความตกใจ

“ยะ อย่าทำแบบนี้เลย!”

ด้วยความกังวล โซยังซังจึงตะโกนออกมา เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นของโซยังซัง ทังยอวอลจึงเม้มปากแล้วกอดอกมองโซยังซัง

"หืม... หรือว่าท่าน... นี่เป็นครั้งแรกงั้นเหรอ?"

"คะ ครั้งแรกงั้นเหรอ! เจ้าหมายถึงอะไรกัน?"

"จริงๆ งั้นเหรอ?"

"ยอวอล!"

 

โซยังซังที่หน้าแดงไปถึงหูตะโกนเสียงดัง  ปัง! ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออก

 

"!!"

 

โซยอนฮวาวิ่งพรวดเข้ามาในห้องชองโซยังซัง การปรากฏตัวของนางทำให้ทังยอวอลรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้วซ่อนตัว เพราะยอวอลรีบซ่อนตัวอย่างรวดเร็วทำให้โซยอนฮวาไม่ทันเห็นนาง และอาจจะเป็นเพราะโซยอนฮวากำลังหนีอะไรบางอย่างอยู่ด้วยก็ได้ โซยังซังถามด้วยความตกใจ

 

"ยอนฮวา! นี่มันอะไรกัน...!"

"พะ พ่อ! ข้าขอโทษนะ แต่..."

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงตะโกนมาจากข้างนอก

"เจ้าคิดจะหนีไปไหน!!"

 

 

*

 

 

เสียงผู้ชายตะโกนดังวุ่นวายจากข้างนอก คือเสียงของหัวหน้าหน่วยรบกลุ่มทมิฬใต้ มาพารัง แม้ว่าเวลาปกติความสัมพันธ์ของโจรกลุ่มทมิฬกับลูมังจะไม่ค่อยดีอยู่แล้ว แต่เหมือนว่าวันนี้จะเกิดเรื่องบางอย่างที่ทำให้เขามาถึงที่นี่

 

 

 

"ออกมาเดี๋ยวนี้! ไอ้เด็กขี้ขโมย วันนี้ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!"

 

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว โซยังซังก็เข้าใจสถานการณ์ทันที เหมือนว่าครั้งนี้โซยอนฮวาจะเข้าไปยุ่งในที่ที่ไม่ควรยุ่ง

 

"เฮ้อ... ไม่ขโมยอะไรมาอีกล่ะ...."

"เอ่อ คือ... ฮ่าฮ่าฮ่า"

 

ยอนฮวาเหงื่อตกด้วยความกังวล แต่ข้างนอกก็ยังคงตะโกนไม่หยุด

 

"ออกมา! ถ้าไม่ออกมา ข้าจะเข้าไปเอง!"

 

สุดท้ายโซยังซังก็ออกจากห้องโดยเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะห้ามไม่ให้โซยอนฮวาออกจากห้อง

 

"พ่อ..."

"ข้าจะออกไปเอง เพราะงั้นเจ้าอยู่ที่นี่เงียบๆล่ะ เข้าใจไหม? ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าออกมา"

 

โซยอนฮวาไม่รู้ต้องทำยังไง จึงได้แต่เดินปึงปังไปที่ของตัวเอง ทังยอวอลที่ซ่อนอยู่ข้างหลังมองยอนฮวาด้วยความระมัดระวัง

 

'พ่องั้นเหรอ...? เด็กคนนั้นคือลูกสาวของโซยังซังอย่างนั้นเหรอ...?'

 

 

*

 

 

โซยังซังออกมาข้างนอกแล้วถอนหายใจ มาพารังที่กำลังโกรธมากจนเหมือนจะมีควันออกหู ยืนส่งเสียงฮึดฮัดอยู่

 

"เจ้าคือ... สาหร่ายแห่งโจรกลุ่มทมิฬ? งั้นเจ้าก็ควรจะเล่นอยู่ในน้ำสิ มาทำอะไรที่นี่ละ?"

"สะ สาหร่ายงั้นเรอะ? เจ้าขอทานบก!"

"ขอทานบกงั้นเรอะ? เจ้าอาหารปลา!"

 

สองคนที่กำลังโกรธมากต่างตั้งท่าเตรียมสู้กัน เหตุผลที่ยั่วยุเขาสองคนไม่สำคัญอีกต่อไป เริ่มด้วยการที่โซยังซังยกดาบขึ้นกันหมัดที่เข้ามาไม่ทันตั้งตัวของมาพารัง

 

เคร้ง!

 

แค่ปลอกแขนกับหอกกระทบกันก็ทำให้ลมพัดไหวอย่างแรง มันแรงมากจนทั้งสองกระเด็นออกคนละก้าว อาจเป็นเพราะมาพารังคิดว่ากาาต่อสู้นี้คงไม่ง่าย เขาจึงเอ่ยปากพูดก่อน

 

"อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ไปเลย แค่คืนของข้ามา ข้าก็จะไป"

"ของงั้นเหรอ?"

"ของที่เจ้าเด็กหัวขโมยนั่นขโมยมาน่ะ!"

"ของนั่นมันคืออะไรกันแน่?"

"คือ.. มันคือ..."

 

มาพารังไม่ตอบคำถามแต่เอาแต่อึกอักต่างกับท่าทางที่กล้าหาญเมื่อครู่ ด้วยท่าทางแบบนั้นทำให้โซยังซังเกิดความสงสัยขึ้นมา

 

"ท่าทางน่าสงสัย... เจ้าทำอะไรที่โรคจิตลงไปงั้นเหรอ?"

"ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องรู้! เอาของที่ขโมยไปคืนมาเดียวนี้!"

 

 

***

 

 

ไม่กี่ชั่วโมงก่อน

 

เสียงหัวเราะเจี๊ยวจ๊าวดังไปทั่วโรงเตี๊ยม ที่โรงเตี๊ยม ในหนึ่งปีจะมีการพบปะกันของโจรกลุ่มทมิฬทั้งหมด ทำให้ตอนนี้ในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยโจรกลุ่มทมิฬ สามารถเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยได้มากมาย หนึ่งในนั้นก็มีมาพารังอยู่ด้วย เขานั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยสภาพเมาแอ๋ ข้างๆ เขามีนางโลมสองคนนั่งหัวเราะคิกคักและพูดคุยกันอยู่ มาพารังหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วชำเลืองมองหญิงสาวทั้งสองที่อยู่ข้างตน

 

'ใช่แล้วล่ะ โจรสลัดก็ต้องมีความสุขกับอะไรแบบนี้บ้าง'

 

มาพารังยิ้มกริ่มพร้อมกับจะเอามือขึ้นจับสะโพกของนางโลมทั้งสอง

 

"ยังไม่ตั้งสติอีกเหรอ!?"

 

เสียงตวาดที่ดุดันทำให้มาพารังใจหายใจคว่ำ ผู้บัญชาการแห่งกลุ่มทมิฬ อึนกวังอีกำลังยืนจ้องเขม็งไปที่เขา การต่อว่าของนาง ทำให้มาพารังอารมณ์เสียไม่น้อย เมื่อเห็นความไม่สบอารมณ์บนใบหน้าของเขา อึนกวังอีจึงถามอีกครั้ง

 

"ทำไม มีอะไรจะพูดงั้นเหรอ?"

 

มาพารังเบ้ปากแล้วตอบอย่างระมัดระวัง

 

"วันแบบนี้ก็ควรจะดื่มแล้วสนุกซักหน่อยไม่ใช่หรือขอรับ...?"

"ในระหว่างสงครามมันมีวันแบบนี้ที่ไหนกัน!"

"...."

 

คำพูดของรุ่นพี่ทำให้มาพารังพูดไม่ออก

 

"ถึงอย่างไร เจ้าคนพวกนี้... ก็ต้องการผ่อนคลายสภาพจิตใจสักหน่อย...."

 

มาพารังมองตามหลังอึนกวังอีที่เดินกระเดาะลิ้นออกไปแล้วขมวดคิ้ว

 

อยู่ดีๆก็มาทำลายช่วงแรกของการพบปะของโจรกลุ่มทมิฬที่จัดขึ้นแค่ปีละครั้งเท่านั้น...

เพราะนางทำอะไรข้าไม่ได้ก็เลยร้อนใจสินะ…

ถ้านางไม่ใช่น้องสาวกัปตันอึนควังอิล...

 

มาพารังส่งเสียงบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว นางโลมที่อยู่ข้างๆ มาพารังก็ทำท่าน่ารักเพื่อคลายอารมณ์โกรธของเขา แต่อยู่ดีๆ มาพารังที่ยังอารมณ์เสียอยู่ก็เอ่ยปากถามนางโลม

 

"พวกเจ้าก็เป็นผู้หญิงใช่ไหมล่ะ?"

"คะ? เดี๋ยวสิ ถ้างั้นท่านเห็นพวกเราเป็นผู้ชายงั้นเหรอคะ?"

"ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... เพราะพวกเจ้าเป็นผู้หญิง พวกเจ้าก็ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงดีใช่ไหมล่ะ?"

"ฮิฮิฮิ ท่านมาพารังของพวกเราสงสัยอะไรงั้นเหรอคะ~?"

 

นางโลมนางหนึ่งถามอย่างมีมารยาพร้อมกับเอามือลูบที่หน้าอกที่แข็งแรงของมาพารัง

 

"ให้ข้าสอนเกี่ยวกับผู้หญิงให้เอาไหมคะ?"

 

แต่คำตอบของมาพารังกลับเป็นคำตอบที่คาดไม่ถึง

 

"ช่วงเวลาที่ผู้หญิงลำบากที่สุดคือตอนไหนเหรอ?"

"คะ?"

"ก็ เวลาที่ทำนั่นทำนี่ไม่ได้น่ะ ไม่มีเลยเหรอ?"

"เวลาแบบนั้นงั้นเหรอคะ... อืม..."

"ก็ตอนที่โดนไล่ออกไปทั้งที่แก้ผ้าอยู่ยังไงล่ะ"

 

ขณะที่นางกำลังลังเลอยู่ นางโลมอีกคนที่อยู่ข้างๆ มาพารังก็รีบตอบ แล้วนางโลมอีกก็คนก็มองด้วยตาเป็นประกายแล้วหัวเราะออกมา

 

"ตายแล้ว เจ้าหมายถึงเรื่องทีเจ้าเพิ่งโดนมาน่ะเหรอ?"

"เจ้านี่~ พูดเรื่องแบบนั้นต่อหน้าท่านมาพารังได้ยังไงกัน~"

 

คิกคิกคิก เหล่านางโลมหัวเราออกมาพร้อมกัน แต่เมื่อมาพารังได้ฟังคำตอบของนางโลมแล้ว ก็เกิดรอยยิ้มพึงพอใจขึ้นบนใบหน้าของเขา

'ใช่แล้วล่ะ... ตอนที่โดนไล่ออกไปทั้งที่ยังแก้ผ้าอยู่สินะ...'

 

 

*

 

 

ช่าาา~~!

 

อึนกวังอีแช่ตัวลงไปในน้ำ ทำให้น้ำล้นออกมาจากอ่างไม้จนเกิดเสียงขึ้น

 

"นี่! ข้างนอกน่ะ เฝ้าอยู่ใช่ไหม?"

"ไม่ต้องห่วงขอรับท่านอึนกวัง ข้าจะเฝ้าระวังอย่างดี"

 

ข้างนอกมีทหารยามที่ยืนถือเสื้อผ้าของอึนกวังอีอยู่ หลังจากได้ยินเสียงที่ตอบกลับมาจากข้างนอก นางจึงวางใจแล้วแช่ตัวลงไปในน้ำจนถึงคอ

 

"อ่า สบายจริงๆ "

 

อึนกวังอีคลายความกังวลเมื่อแช่ตัวลงในน้ำอุ่น พร้อมกับหลับตาลง ขณะนั้นเอง อึนกวังอีก็ไม่รู้เลยว่าทหารข้างนอกสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และข้างหลังทหารที่สลบไปนั้น มาพารังที่กำลังถือเสื้อผ้าของอึนกวีงอีอยู่ก็ค่อยๆ ออกไปอย่างเงียบๆ

 

แต่คนที่ซ่อนตัวอยู๋ในโรงเตี๊ยมไม่ได้มีแค่มาพารังเท่านั้น

 

"โถ่! คุณหนูยอนฮวา ที่นี่กลุ่มทมิฬไม่ใช่เหรอ! ถ้าถูกจับได้ละก็เรื่องใหญ่แน่!"

"ชู่ว! เงียบๆหน่อย ก็อย่าให้โดนจับได้สิ!"

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ.."

"คิดว่าโอกาสที่กลุ่มทมิฬจะมาใกล้ๆ แบบนี้จะมีมาบ่อยๆ งั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้ ก็อาจจะไม่มีโอกาสแล้วนะ"

"โถ่ คุณหนู.."

 

ยอนฮวาไม่สนใจเสียงบ่นของกิลดง แล้วมองไปข้างในโรงเตี๊ยม. ยอนฮวาที่แบกห่อผ้าอยู่ กำลังเก็บข้าวของที่ดูราคาแพงที่วางอยู่ทั่ว นี่เป็นเวลาที่กลุ่มทมิฬกำลังพบปะสังสรรค์กัน เป็นไปไม่ได้ที่ของที่เอามาที่นี่จะเป็นของที่มีราคาแพง เพราะฉะนั้นของส่วนใหญ่ที่พอจะทำเงินได้ก็มีแต่อาวุธเท่านั้น ยอนฮวาที่แบกอาวุธอยู่เป็นจำนวนมากจึงไม่สามารถออกจากโรงเตี๊ยมได้ง่ายๆ ในตอนนั้นเองยอนฮวาก็ได้เห็นมาพารังที่ถือห่อผ้าที่ดูจะมีของสำคัญอยู่ข้างใน

 

"โอ้โห~"

 

ตาของโซยอนฮวาส่องประกายทันทีที่เห็น

 

 

*

 

 

 

“ขโมย!!”

 

ยอนฮวาหนีไปพร้อมกับเสียงตะโกนของมาพารังและเสียงหน้าต่างแตกดังเพล้ง ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงเตือนขึ้นในหัวของมาพารัง ของที่เด็กคนนั้นขโมยไปนั้น มีเสื้อผ้าของอึนกวังอีอยู่ด้วย

 

'ถ้าถูกจับได้... คนต้องคิดว่าข้าเป็นโรคจิตแน่ๆ !'

 

ในตอนนั้นเอง มาพารังก็เริ่มไล่ตามโซยอนฮวาอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

 

"โถ่! คุณหนู! พวกกลุ่มทมิฬตามมาแล้ว!!"

"ว่าไงนะ? เรื่องใหญ่แล้วสิ!!!"

 

โซยอนฮวาก็เริ่มวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน และนี่ก็คือสาเหตุที่เขาทั้งสองไว้ไล่กันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

 

 

*

 

 

 

อีกด้าน อึนกวังอีก็ได้ยินเสียงตะโกนของมาพารังเช่นกัน

 

"ว่าไงนะ? ขโมย? นี่มันเรื่องอะไรกัน??"

 

อึนกวังอีตกใจจึงออกจากอ่างอาบน้ำ อึนกวังอีในสภาพที่น้ำยังหยดติ๋งๆ เรียกทหารที่อยู่ข้างนอก

 

"เอาเสื้อผ้ามาให้ข้า! ข้าจะออกไปข้างนอก!"

 

แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่มีเสียงตอบจากข้างนอก เพราะทหารสลบอยู่ ทำให้อึนกวังอีกังวลมาก

 

"นี่? ข้างนอกไม่มีใครอยู่เลยเหรอ?"

 

แม้อึนกวังอีจะเรียกคนข้างนอกด้วยความกังวล แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลย เมื่อเวลาผ่านไป อึนกวังอีทนไม่ไหวกับลมหนาวที่ปะทะร่างกาย จึงลงไปในอ่างอาบน้ำอีกครั้ง แล้วเรียกอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

 

"นี่...?"

 

 

***

 

 

 

และนี่ก็คือเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน โซยอนฮวาที่ไม่สามารถหนีได้อีกแล้วก็ได้หนีมาที่ป่าลูมัง

 

เพราะอย่างนั้น มาพารังและโซยังซังจึงเริ่มต่อสู้กัน และเหมือนทั้งสองจะไม่สามารถคลายความกังวลลงได้เลย โซยังซังที่ไม่อยากให้เรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่และมาพารังที่รู้ว่ายังไงตัวเองก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ทั้งสองจึงไม่ท้าทายกัน ได้แต่จ้องมองกันเท่านั้น อีกด้านหนึ่ง โซยอนฮวาที่รออยู่ในห้องก็ทนไม่ไหว และกำลังจะสร้างเรื่องขึ้น

 

"เจ้านั่น...? พ่อรอก่อนนะ เดี๋ยวข้าจะไปช่วย!"

 

โซยอนฮวามองไปรอบๆ เพื่อหาของที่พอจะมีประโยชน์ แล้วจู่ๆก็มองที่ห่อผ้าที่ตนถืออยู่ คิดๆ แล้ว ของที่ขโมยมาจากกลุ่มทมิฬก็น่าจะเป็นอาวุธทั้งหมด ยอนฮวายิ้มเบาๆ แล้วหยิบอาวุธที่มองเห็นได้ออกมาจากห่อผ้า

 

นั่นก็คือปืนบาซูก้าของใครซักคน

 

แต่ยอนฮวาไม่รู้เลยว่ามันคืออาวุธที่มีชื่อเสียงในกลุ่มทมิฬ ไม่สิ นางเพิ่งเคยเห็นอาวุธแบบนี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ แต่นางไม่สนใจและใช้ความกล้าหาญหยิบมันขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ หรือไม่นางก็แค่มองโลกในแง่ดีแล้วทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็เท่านั้นเอง

 

โซยอนฮวาแบกปืนอันใหญ่ไว้ที่ไหล่ แล้วเปิดประตูอย่างกล้าหาญ

 

ปัง!

 

แต่ครั้งแรกก็คือครั้งแรก ไม่มีทางที่นางจะใช้มันอย่างถูกต้องได้ ยอวอลที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง มองปืนที่เล็งมาทางนางด้วยความตกตะลึง แต่ยอนฮวาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถืออาวุธกลับด้านอยู่ นางตะโกนเสียงดังด้วยความกระเหิมใจ แล้วเตรียมเหนี่ยวไกปืน

 

"พ่อ! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!"

"เจ้าเด็กบื้อนี่!!"

 

ยอวอลจะหนีออกไปขณะที่ยอนฮวาจะเหนี่ยวไกปืน แต่ปืนนั้นได้เหนี่ยวไกแล้ว เธอจึงทำได้แค่หลบจากทางปืนไปอย่างหวุดหวิด

 

ปัง!!

 

เสียงดังกระหึ่มมาพร้อมกับฝุ่นดินที่กระจายไปทั่ว ป่าถูกทำลายและเกิดความวุ่นวายขึ้น สิ่งของทั้งหมดที่โดนระเบิดต่างร่วงตกลงมา รวมถึงอาวุธที่ยอนฮวาขโมยมาจากโรงเตี๊ยมด้วย และการที่ลูกปืนใหญ่ถูกยิงไปผิดทางก็ทำให้ยอนฮวาล้มหน้าคว่ำลงไป ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด

สถานการณ์ไร้สาระพวกนี้ มาพารังกลับมีกำลังมากขึ้น มาพารังที่เข้าใจสถานการณ์ดีหัวเราะเยาะ แล้วหยิบดาบที่ตกอยู่ข้างตัวขึ้นมา

 

"เจ้าเด็กหัวขโมย! หมดเวลาเล่นวิ่งไล่จับแล้ว!!"

 

ดาบของมาพารังพุ่งไปทางยอนฮวารินอย่างรวดเร็ว ยอนฮวารู้ว่าไม่มีทางหลบได้ จึงทำได้แต่หลับตาลงแน่น

 

"!!"

"!!"

 

เมื่อทังยอวอลและโซยังซังเห็นอย่างนั้นก็ได้ขว้างอาวุธออกไปอย่างรวดเร็ว ดาบของทังยอวอลและหอกของโซยังซังพุ่งไปทางดาบของมาพารังอย่างรวดเร็ว

 

*

 

"อั๊ก!!"

 

โชคดีที่ดาบของทังยอวอลปัดดาบของมาพารังออกไปได้ ดาบที่มุ่งไปทางยอนฮวาก็เปลี่ยนทิศทางไปทางแขนของยอนฮวาแทน แต่ไม่ใช่แค่ดาบของมาพารังที่กระเด็นออกมาเท่านั้น หอกของโซยังซังที่กระทบกันก็กระเด็นออกมาแล้วโดนเข้าที่ตาของทังยอวอล

 

"ยอนฮวา! ยอวอล!!!"

 

โซยังซังชะงักไปครู่หนึ่ง ระหว่างลูกสาวของตนที่มีเลือดไหลที่แขน... กับคนรักที่มีเลือดไหลออกมาจากตา สุดท้ายแล้ว... เขาก็เลือกที่จะไปดูแลโซยอนฮวา

 

"ยอนฮวา! เจ้าเป็นอะไรไหม?"

 

ยอวอลชะงักไปชั่วครู่ แล้วใช้ตาอีกข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บจ้องมองโซยางซักอยู่สักพัก เลือดที่ไหลออกมาจากตาของนางราวกับว่าเป็นน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด... แล้วยอวอลก็ลุกออกจากตรงนั้นไป

 

โซยังซังรู้ดีว่านางมองเขาอยู่ และรู้อีกด้วยว่านางออกไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มองตามนางไป

 

"ยอนฮวา เจ้าเป็นอะไรไหม?"

"โอ๊ยโอ๊ย... เฮ้อ นึกว่าจะตายซะแล้วเชียว ข้าไม่เป็นไรหรอกพ่อ"

 

โซยังซังโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบของโซยอนฮวา มาพารังที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางอวดดี

 

"เจ้าไม่ควรขโมยของคนอื่นแบบ..."

 

คำพูดของมาพารังหยุดแค่ตรงนั้น เพราะปลายหอกของโซยังซังกำลังจี้ไปที่คอของมาพารัง พร้อมความน่ากลัวที่ออกมาจากหอกนั่น พามารังกลืนน้ำลายโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะลิ้นไก่ขยับทำให้คอของเขาโดนกับคมหอก ทำให้เกิดบาดแผลเล็กน้อย

 

"รู้แล้วๆ ข้าจะเอาของของข้าแล้วจะไปเดี๋ยวนี้แหละ"

 

มาพารังยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อแสดงถึงการยอมจำนน แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว แม้ว่าหอกของโซยังซังยังคงชี้ไปที่เขาอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากให้ตัวเองบาดเจ็บมากไปกว่านี้แล้ว เขาจึงค่อยๆ เก็บของของตนเอง

 

"ข้าจะเอานี่ไปด้วย"

 

มาพารังหยิบบาซูก้าที่โซยอนฮวาทำตกไว้เป็นอย่างสุดท้าย แล้วกลับป่าลูมังไป จึงเหลือแค่โซยังซังและโซยอนฮวาแค่สองคน

โซยังซังจึงค่อยๆ วางหอกลง

 

"พ่อ ข้าขอโทษ..."

"ไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าขโมยอะไรมากันแน่"

"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าขโมยมันมาก่อนที่ข้าจะเห็นมันด้วยซ้ำ... ว่าแต่ พ่อไม่เป็นไรนะ?"

"หมายความว่ายังไง?"

"เมื่อกี้ คนที่อยู่ในห้องพ่อน่ะ... ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ถึงจะไม่เห็นหน้าก็เถอะ... คนรักของพ่อเหรอ?"

"วะ ว่าไงนะ!"

"ไม่ตามไปเหรอ?"

 

โซยังซังลังเลกับคำถามของโซยอนฮวาไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ลูบหัวโซยอนฮวาเบาๆ แล้วตอบ

 

"...ไม่เป็นไร ยังไงเจ้าก็สำคัญที่สุด"

 

ยอนฮวายิ้มออกมาเพราะคำตอบของโซยังซัง เมื่อเห็นอย่างนั้น โซยังซังก็ยิ้มออกมาเช่นกัน แต่ดวงตาของเขากลับมองไปตามทางที่ทังยอวอลหนีไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว แต่ทางนั้นก็มีแต่ฝุ่นดินที่ปกคลุมไปทั่ว และดวงอาทิตย์อัสดงที่ดูเปล่าเปลี่ยวอยู่ข้างหลังฝุ่นนั่นเท่านั้น

 

 

- fin –

 

 

"ฮัดชิ่ว!"

 

 

 

อึนควังอีจามออกมาเพราะลมหนาว และตอนนี้น้ำในอ่างก็เย็นลงแล้ว

เวลาผ่านไปจนดึก มีเสียงที่ฟังดูน่าสงสารของอึนกวังอีดังในโรงเตี๊ยมที่ไม่มีใครอยู่เลย

 

"ข้างนอก... ไม่มีใครอยู่เลยเหรอคะ?"

 

 

 

- จบจริงๆ -


keyboard_arrow_up

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
|
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
Customer Service Center
|
Open Source License Announcement
BLADE & SOUL ® IS A REGISTERED TRADEMARK OF NCSOFT CORPORATION.
COPYRIGHT ⓒ NCSOFT Corporation. Licensed to Garena Online. All Rights Reserved.